Search

เมื่อ “ความสุข” ของลูก

กลายเป็น “ความท...

  • Share this:

เมื่อ “ความสุข” ของลูก

กลายเป็น “ความทุกข์” ของลูก

แม่ๆอาจจะไม่เคยคิดหรือสังเกตเรื่องอาหารการกินของลูกๆสักเท่าไหร่ และอาจจะคิดว่าอะไรที่ลูกชอบก็ให้ลูกกินไปเถอะ ความสุข ของเค้า ... แต่รู้ไหมคะว่า ภัยเงียบ จากอาหารการกินส่งผลต่อระบบขับถ่ายลูกได้โดยที่เราอาจจะไม่คาดคิดเลย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา น้องณเวฬา มีปัญหาเรื่องท้องผูก
ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกของการท้องผูกที่พรากน้ำตาลูกครั้งยิ่งใหญ่ เพราะในชีวิตแม่ของเอ็มเอง ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย

น้องณเวฬา ไม่อึมา 1 วัน (ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้ว และก็จะถ่ายท้องในวันถัดมาซึ่งเนื้ออึก็จะมีความเหนียวแต่ไม่มาก) แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา เพราะหวังว่า การที่ไม่อึเมื่อวาน จะรวบยอดมาอึในวันนี้ แต่ปรากฏว่า เล่นๆอยู่ ลูกก็วิ่งมาหาร้องไห้ ทำท่าเบ่งหน้าดำหน้าแดง เบ่งไปกรี้ดไปร้องไห้ไป พอแง้มดูเพิ๊ส ปรากฏว่าไม่มีสักก้อนให้เห็นเลย 😭 เพราะลูกอึไม่ออก

.... พูดตรงๆเลยว่า ไม่คิดว่ารอบนี้จะหนักมากถึงเพียงนี้ น้องณเวฬา ร้องไห้โยเยเป็นระรอก ทุกครั้งที่เบ่งอึก็จะเบ่งพร้อมกรี้ดและร้องไห้ เมื่อความปั่นป่วนในช่องท้องและรูทวารสงบ ก็กลับมาวิ่งเล่นหัวเราะปกติ

ลูกพยายามจะเบ่งอึตั้งแต่เช้า พอเห็นท่าไม่ดีก็เลยนำน้ำลูกพรุน/ นมเปรี้ยว/ ทุกสิ่งที่คิดว่าจะอึมาให้ทาน แต่ไม่ยอมกินเลย ..... ซึ่งปกติเลย น้องณเวฬา ทานทุกอย่าง และทุกวันต้องได้กินผักผลไม้อยู่แล้ว นมที่ดื่มอยู่ทุกวันระบบขับถ่ายและระบบย่อยก็คุ้นชินกันแล้ว ถ่ายท้องเป็นปกติทุกวัน จึงทำให้คนเป็นแม่อย่างเรามานั่งนึกว่า สาเหตุของการท้องผูกครั้งนี้คืออะไร ในเมื่อ routine เดิมทุกอย่าง จะแตกต่างไปก็มีแค่อย่างเดียว

นั่นก็คือ .... เจ้าขนมข้าวพอง ขนมข้าวอบกรอบสำหรับเด็ก!!!

หม่าม้าหาตัวเจ้าวายร้ายของเรื่องนี้เจอแล้ว!!! เพราะเจ่เจ้ก็เคยกินแล้วก็เคยถ่ายเหนียว (ไม่หนักถึงขั้นน้องณเวฬาเลยด้วย)

หลังๆมาเริ่มให้น้องณเวฬากินขนมข้าวอบกรอบของเด็ก (ขนมสำหรับวัย 6เดือนเป็นต้นไป) เพราะเวลาเจ่เจ้นั่งกินป๊อกกี้ น้องก็อยากกินด้วย แต่ด้วยความที่น้องยังไม่ถึงวัยที่หม่าม้าจะให้กินขนมพวกช็อกโกแลตต่างๆนาๆ กลัวฟันผุ กลัวติดคอ ร้อยพันเหตุผลของคนเป็นแม่ จึงเป็นที่มาของการกินขนมข้าวอบกรอบ....จะได้ไม่ต้องนั่งมองเจ่เจ้ตาปริบๆ กลืนน้ำลายหนึบๆ

พอรู้สาเหตุก็เลยให้เลิกกิน .... เลิก ตัดขาดเลยค่ะ!!!

จนเวลาพลบค่ำแล้ว แรงที่เบ่งแทบจะไม่เหลือแล้ว ร้องไห้จนเหนื่อย อึไม่ออกสักก้อน จึงให้ป่าป๊าไปซื้อ เจ้า Glycerin แท่งเทียนไข(ตัวนี้จะกระตุ้นให้ถ่ายท้องและทำให้อุจจาระนิ่มค่ะ) มาเพื่อเหน็บก้น (เภสัชและหลายๆเสียงคอนเฟิร์มว่า เหน็บมิดด้าม รอ 15 นาทีอย่างไว 30นาทีอย่างช้า มาแน่นอน!!)

ตอนเหน็บยาเสียงลูกกรีดร้องโหยหวนมาก ใจหม่าม้าจะขาดแล้ว รู้สึกผิดมากๆว่าทำไมไม่คิดให้ได้ไวกว่านี้ ว่าขนมตัวนี้มันคือวายร้าย

15 นาทีก็แล้ว.....
30 นาทีก็แล้ว.........
45 นาทีก็แล้ว.............

ไม่มีอึออกมาสักก้อน!!!! ลูกยังคงพยายามจะเบ่งให้ออกอยู่ แล้วผลลัพธ์ของวันนั้นก็คือ เข้านอนทั้งน้ำตา

เช้าวันใหม่ (ถือว่าเป็นวันที่ 3นับจากวันต้นเรื่อง)....
น้องณเวฬาตื่นนอนด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่นานนักก็กลับเข้าสู่โหมดเบ่งและกรีดร้องอีก

.... เสียงร้องของลูกมันบาดใจมาก....

แล้วลูกก็เงียบจึงพากันไปห้องน้ำ เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ กิจวัตรประจำวันในทุกเช้าคือต้องนั่งฉี่หรืออึที่ชักโครกก่อน ล้างแล้วจึงมาลงอ่างอาบน้ำชิวๆสบายกายา ... แต่พออุ้มนั่งกระโถนเท่านั้นละ บอกให้ อึ ไหม แล้วทำเสียง อื้อออออ ให้ .... ปรากฏว่า ลูกร้องหนักกว่าทุกรอบ ก้มลงไปดู เห็นอึก้อนค่อนข้างใหญ่กว่ารูก้น แต่ออกมาไม่ได้ ลูกพยายามจะเบ่งเอาออกพร้อมร้องไห้ไปด้วย ... หม่าม้าใจจะขาดมากๆ แล้วลูกก็ดีดตัวออกจากชักโครก ไม่ยอมนั่งแล้ว แต่มันคาก้นอยู่อย่างนั้น จึงให้ลูกยืนและกอดลูก ช่วยลูกเบ่งพร้อมกับอุ้มนั่งชันเข่าเอาถังขยะมารองเพื่ออึออกมา แต่มันคาก้นอยู่อย่างนั้น

แล้วป่าป๊าก็มาเห็นพอดี เราจึงตัดสินใจร่วมกันว่า เราต้องช่วยลูกเอาก้อนนี้ออกมาก่อน ไม่งั้นลูกทรมานแน่ๆ ถ้าก้อนนี้ออกมาได้ คงทำให้การอึรอบอื่นๆง่ายขึ้น คือมันไม่ได้แข็งนะ แต่มันก้อนใหญ่และเหนียวมาก ...

เราเอา คัตตอนบัตจุ่มวาสลีน ... หม่าม้าอุ้ม ป่าป๊าใช้คัตตอนบัตที่จุ่มวาสลีนควักก้อนแข็งออกมา ซึ่งมันเหนียวมากๆ .... ทุกคนค่ะ มันเป็นซีนที่สงสารลูกมากกกกกกก ... ลูกร้องคร่ำครวญมาก 😭😭 ป่าป๊าพยายามที่จะช่วยเอามันออกมาให้หมดแบบถึงโคน แต่แล้วมันก็หัก เพราะคัตตอนบัตไม่สามารถต้านแรงของอึเหนียวๆก้อนนี้ได้ ลูกดูสงบลงมา และก็พาไปอาบน้ำ มองหน้าลูกแล้วก็คิดว่าจะทำยังไงให้อึใหญ่ๆก้อนนี้ออกมาให้หมด เพื่อเป็นการเปิดทางให้การระบายท้องง่ายขึ้น จึงเหน็บยาอีก 1 แท่ง

ผ่านไป 1 ชั่วโมง .... น้องณเวฬาก็เบ่งและร้องไห้ใหญ่เลย แล้วส่วนที่ยังค้างอยู่ที่เราเอามันไม่ออก ก็ออกมา 😭😭 และแล้ววันนี้ น้องก็อึไปทั้งหมด 4 รอบ จนรอบล่าสุดเป็นเนื้อปกติแล้ว

รอบนี้ยาวหน่อยเพราะอยากเตือนคุณแม่ๆทุกท่านว่าให้ระวังเรื่องอาหารการกินให้ดีดี มันส่งผลกระทบต่อระบบขับถ่ายของลูกน้อยมากๆ กินดีก็ถ่ายดี กินไม่ดีก็ถ่ายยาก

อาหารที่ควรเลี่ยงเลยได้แก่ พวกผักหัวทั้งหลาย ทั้งเหนียวและทำให้ท้องผูกได้ (เช่น. แครอท มันสำปะหลัง ฟักทอง และอื่นๆอีกมากมาย)

และที่สำคัญที่สุด ต้องเป็นคนเจ้าสังเกต ใส่ใจ จดจำในรายละเอียดของลูก รู้จักลูกให้มากๆ ... ทุกครั้งที่เกิดปัญหาแบบนี้จะได้หาสาเหตุได้ง่ายว่า ต้นเหตุคืออะไร


Tags:

About author
not provided